กรมประมง ยืนยันยังไม่พบสัตว์น้ำตายหรือได้รับผลกระทบผิดปกติจากคราบน้ำมัน แต่ได้เก็บตัวอย่างสัตว์น้ำมาตรวจวิเคราะห์สารตกค้าง รู้ผลสัปดาห์หน้า พร้อมเตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทต้นเหตุ
นายวิมล จันทรโรทัย อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า กระทรวงเกษตรฯ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะเรื่องการปนเปื้อนของน้ำมันและสารเคมีกำจัดคราบน้ำมันในน้ำและสัตว์น้ำ ซึ่งได้เก็บตัวอย่างน้ำไปตรวจหาสารปนเปื้อน และจะทำต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 1 เดือน จนกว่าค่าการปนเปื้อนจะอยู่ในเกณฑ์ปกติ ในส่วนผลกระทบต่อสัตว์น้ำ ยังไม่พบการตายผิดปกติ ซึ่งล่าสุดเช้าวันนี้เจ้าหน้าที่รายงานจากอ่าวพร้าว พบปลาตายเพียง 2 ตัว เท่านั้น แต่ได้นำตัวอย่างปลาให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยไปตรวจหาสารตกค้างด้วย สัปดาห์หน้าจะทราบผ
ขณะเดียวกัน กำลังติดตามทิศทางการเคลื่อนตัวของคราบน้ำมันอีกก้อนหนึ่ง ที่อาจพัดเข้าชายฝั่งด้านอำเภอเมือง และอำเภอแกลง ซึ่งเป็นแหล่งเลี้ยงหอย และปลากระชัง ซึ่งหากคราบน้ำมันพัดไปถึง จะเสียหายรุนแรงแน่นอน ซึ่งในวันพรุ่งนี้ นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ จะลงพื้นที่พบชาวประมงพื้นบ้าน อำเภอเมือง ระยอง เพื่อรับทราบปัญหา และดูผลกระทบที่เกิดขึ้น
ส่วนผลกระทบที่เกิดขึ้นแล้ว อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า ชาวประมงได้รับผลกระทบแน่นอน โดยเฉพาะประมงชายฝั่งที่เสียโอกาสในการทำมาหากิน รวมถึงปะการังเทียม ของกระทรวงเกษตรฯ ที่วางไว้ให้เป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ ตั้งแต่ปี 2536 จำนวน 5 กอง พื้นที่กองละ 1 ตารางกิโลเมตร เสียหายจากคราบน้ำมันและสารกำจัดคราบน้ำมันอย่างแน่นอน ซึ่งจะสำรวจความเสียหายจริงหลังการกำจัดคราบน้ำมันได้สำเร็จแล้ว และจะใช้ พ.ร.บ.สิ่งแวดล้อม ฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากบริษัทต้นเหตุด้วย โดยจะดำเนินการในลักษณะเดียวกับกรณีเรือน้ำตาลล่ม ที่จังหวัดอ่างทอง เมื่อหลายปีก่อน